รู้หรือไม่ว่าสินค้าที่ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตมักมีราคาถูกกว่าสินค้าที่ซื้อตามหน้าร้าน

ปัจจุบันมีเว็บขายของออนไลน์ผุดขึ้นมาเยอะราวกับดอกเห็ด แต่ยังไงแล้วร้านที่เราเลือกซื้อออนไลน์ ต้องเป็นร้านที่ดูน่าเชื่อถือมาก่อนเป็นอันดับแรกใช่มั้ยคะ ต่อมาเป็นเรื่องของราคาและความคุ้มค่า เนื่องจากเว็บขายของออนไลน์ตอนนี้มีเยอะมาก บางทีขายสินค้าเหมือนกันเป๊ะ แต่ราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว ซึ่งทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์เจ็บแบบนี้มาก่อนใช่มั้ยคะ อิอิ T_T


รู้หรือไม่ว่าสินค้าที่ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตมักมีราคาถูกกว่าสินค้าที่ซื้อตามหน้าร้าน?
เดี๋ยวนี้เทรนด์การซื้อของผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย ยิ่งตลาดเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ มิจฉาชีพก็ยิ่งแสวงหาวิธีการโกงเพื่อหาผลประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น หากคุณเป็นคนที่ซื้อของออนไลน์เป็นประจำ นี่คือเคล็ดลับ8ข้อที่สามารถช่วยคุณได้
1. ใช้บัตรเครดิต อย่าใช้บัตรเดบิต

กฎข้อแรกของการซื้อของออนไลน์คือ ใช้บัตรเครดิต เพราะบัตรเครดิตมีนโยบายป้องกันที่ดีกว่าบัตรเดบิต และหากเป็นไปได้ให้ใช้บัตรเครดิตที่เชื่อมต่อกับบัญชีของ Paypal เพราะขั้นตอนการเรียกขอเงินคืนนั้นสะดวกและง่ายกว่ามาก
2. มองหาตัว ‘S’

ก่อนที่จะทำการจ่ายเงินให้ตรวจสอบคำว่า http:// บนหน้าเวบไซต์ที่คุณกำลังใช้งาน หากมีตัว ‘S’ ต่อท้าย (https://) แปลว่าเวบไซต์นั้นมีระบบความปลอดภัยรองรับ แม้ว่ายังคงมีความเสี่ยง แต่ก็น้อยกว่าเวบไซต์ที่ไม่มี
3. อย่าซื้อของออนไลน์ด้วยคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตสาธารณะ

หากเป็นไปได้พยายามอย่าใช้จ่ายออนไลน์ในร้านอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์สาธารณะ หรือ อินเทอร์เน็ตสาธารณะ เพราะคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้อาจจะจดจำเลขบัญชี หรือคุณอาจลืมล็อกเอาท์ หรือ ถึงแม้จะล็อกเอาท์แล้ว แต่บรรดาแฮคเกอร์ก็ยังสามารถแฮคเอาข้อมูลของคุณได้ กระทั่งการใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุคหรือแท็บเล็ตต่ออินเตอร์เนตสาธารณะก็ยังไม่ปลอดภัยเพราะแฮคเกอร์ยังคงสามารถขโมยข้อมูลของคุณได้เช่นกัน
4. อย่าให้ข้อมูลบัตรประชาชน

เวลาใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต หากทางเวบไซต์เริ่มขอข้อมูลเกินความจำเป็นนอกเหนือจากเลขบัตรหรือรหัสsecurity code หากรู้สึกว่าน่าสงสัยคุณควรปิดเบราเซอร์ทันที อย่ากรอกตัวเลขลงไป
5. อัพเดตโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอย่างสม่ำเสมอ

อย่าปล่อยให้แอนตี้ไวรัสของคุณหมดอายุ การไม่มีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสในเครื่องอาจเปิดโอกาสให้แฮคเกอร์ขโมยข้อมูลของคุณได้ง่ายขึ้น